ดาดฟ้าคือส่วนสำคัญในการป้องกันอาคารจากแสงแดดและน้ำขัง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน หลายคนต้องประสบกับปัญหาน้ำรั่วซึมที่อาจเกิดจากผนังดาดมีรอยแตกร้าว หรือใช้กันซึมที่ไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อม ส่งผลให้เสื่อมสภาพเร็วและไม่คงทนต่อการใช้งาน ดังนั้น วัสดุกันซึม ต้องเลือกให้ถูกชนิด บทความนี้จะพาไปดูว่าประเภทของระบบกันซึม มีอะไรบ้าง และแต่ละชนิดมีคุณสมบัติอย่างไร

วัสดุกันซึม คืออะไร
เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ ทนทานต่อน้ำขังเป็นระยะเวลานาน ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำรั่วซึมเพดานหรือซึมเข้าไปภายในอาคาร นิยมทำในบริเวณที่สัมผัสกับน้ำและความชื้นเป็นประจำ เช่น ห้องน้ำ ดาดฟ้า หลังคาบ้าน และช่วยยืดระยะเวลาการเสื่อมสภาพของโครงสร้างบ้านได้ด้วย
ความสำคัญของระบบกันซึม มีอะไรบ้าง
ลดความเสียหายของโครงสร้างบ้าน
เมื่อมีน้ำรั่วซึมเข้าบริเวณคานไม้หรือโครงเหล็กต่าง ๆ หากปล่อยเป็นระยะเวลานาน ตัวอาคารก็จะไม่แข็งแรง เกิดเป็นรอยร้าว และทรุดตัวลงมาจนเกิดอันตรายแก่ผู้อยู่อาศัยได้ รวมถึงอาจรั่วซึมไปถึงระบบไฟฟ้าจนเกิดอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจรได้เช่นกัน
เฟอร์นิเจอร์และสีผนังไม่เสื่อมสภาพเร็ว
ความชื้นจากน้ำทำให้สีผนังลอกล่อน บวมพอง และหลุดเป็นแผ่นออกมา จำเป็นต้องจ้างช่างทาสีมาช่วยซ่อมแซม นอกจากนี้ พื้นและเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ก็จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าเดิม อาจต้องรื้อทิ้งและซื้อใหม่ ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น
ตัวบ้านและอาคารไม่ร้อน
วัสดุบางชนิดมีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนและรังสี UV ส่งผลให้อาคารหรือบ้านมีอุณหภูมิที่คงที่และไม่ร้อนจนเกินไป แถมช่วยประหยัดค่าไฟในระหว่างวัน เพราะเย็นสบายโดยไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์
ประเภทของวัสดุกันซึม มีอะไรบ้าง แต่ละชนิดมีคุณสมบัติอย่างไร
เพราะการใช้วัสดุที่ไม่เหมาะกับสภาพพื้นผิว จะทำให้ระบบกันซึมทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นเราจึงควรทำความรู้จักประเภทของกันซึม และเลือกใช้ชนิดที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด
1. กันซึม ประเภทโพลียูรีเทนสูตรน้ำ (Polyurethane Water Base)
เป็นระบบกันซึมแบบน้ำที่มีส่วนผสมของโพลียูรีเทน (PU) มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะแสงแดดจัดหรือฝนตกหนัก ป้องกันรังสี UV ได้ดี สามารถขยายตัวเพื่อปกปิดรอยต่อ ไม่ให้น้ำรั่วซึม
- เมื่อทาเสร็จแล้วจะแห้งและเซ็ตตัวเป็นแผ่นฟิลม์เคลือบพื้นผิว ทำให้มีความสวยงาม
- มีความเหนียวตัวสูง ไม่เหมาะกับการทาทับปิดผิว
- เหมาะกับดาดฟ้าคอนกรีตที่มีการยืดหรือหดตัวอยู่บ่อย ๆ จากสภาพอากาศ
2. กันซึม ชนิดอะคริลิก
เป็นกันซึมที่มีโพลีเมอร์เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นและทนทานต่อน้ำขังได้น้อยกว่าชนิดโพลียูรีเทน ควรใช้คู่กับ Fiberglass และ Polyester Mat เพื่อเสริมความแข็งแรงทนทาน
- มักจะมาในรูปแบบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เปิดฝาผสมน้ำเล็กน้อย ก็สามารถใช้งานได้ทันที
- ราคาย่อมเยามากกว่าชนิด PU
- เหมาะกับดาดฟ้าที่มีรอยร้าวขนาดเล็ก ดาดฟ้า ผนังอาคาร หรือระเบียงที่มีปัญหาน้ำรั่วซึม
3. กันซึม ชนิดซีเมนต์
มีส่วนผสมของซีเมนต์และโพลีเมอร์เป็นหลัก คุณสมบัติสามารถปกปิดรอยแตกร้าวและยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดี แต่ไม่คงทนต่อแสงแดดและรังสี UV จึงเหมาะกับงานกันซึมที่ไม่ถูกแสงแดดโดยตรง ต้องใช้วัสดุอย่างปูนหรือกระเบื้องมาปิดทับอีกครั้ง
- มีให้เลือกหลากหลายประเภท ได้แก่ ซีเมนต์ชนิดยืดหยุ่น แบบส่วนผสมเดียว สองส่วนผสม และชนิดตกผลึก (Crystalline)
- เหมาะกับดาดฟ้าซีเมนต์ทั่วไป ห้องน้ำ ห้องใต้ดิน หรือสระว่ายน้ำ
4. กันซึม ประเภทเมมเบรน (Membrane)
เป็นเทคโนโลยีกันซึมชนิดแผ่นพลาสติกสำเร็จรูปสำหรับการปกปิดรอยแตก มีคุณสมบัติกันน้ำและทนต่อสารเคมีต่าง ๆ แต่ต้องติดตั้งและปูแต่ละแผ่นให้แนบชิดกัน
- ไม่ทนความร้อนและเสี่ยงติดไฟได้ง่าย จึงควรมีวัสดุปิดหน้าเหมือนกับซีเมนต์เบส
- เหมาะกับการติดตั้งบนหลังคาดาดฟ้าคอนกรีต บ่อน้ำ หรือระเบียง
5. กันซึม แบบเคลือบใส (Water Repellent Gloss)
มีลักษณะเป็นน้ำยาเคลือบใส ไม่มีสารพิษอันตราย ทนทานต่อสภาวะอากาศ ทำความสะอาดง่าย รักษาพื้นผิวให้ใช้งานได้นานขึ้น สามารถป้องกันคราบเชื้อรา คราบสกปรก และตะไคร่น้ำได้ด้วย
- ไม่เหมาะกับการทากันซึมดาดฟ้า เพราะปัองกันรังสี UV ไม่ได้
- เหมาะกับพื้นผิวคอนกรีตหรือกระเบื้อง เพราะให้ความมันวาวสวยงาม เช่น พื้นโรงงาน พื้นโรงยิม หรือโรงพยาบาล
6. กันซึม ประเภทเซรามิค (Ceramic)
เป็นระบบกันซึมชนิดทาที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้งานได้กับทุกพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็น คอนกรีต อิฐ โลหะ กระจก หรือกระเบื้องรูปแบบต่าง ๆ
- ช่วยลดอุณหภูมิภายในอาคารและสามารถสะท้อนความร้อนได้มากถึง 80 – 95%
- มีอายุการใช้งานนาน เหมาะกับการทากันซึมดาดฟ้าโรงงานอุตสาหกรรม บ้าน โรงเรียน
ขั้นตอนการทาวัสดุกันซึม 5 Layers ทนน้ำขังได้นาน 1 ปีเต็ม!
หลังจากทำความรู้จักรูปแบบของกันซึมกันไปแล้ว เราจะมาอธิบายวิธีป้องกันการรั่วซึมด้วยการทากันซึมดาดฟ้าแบบ 5 Layers ที่สามารถทนน้ำขังได้นานถึง 365 วัน ด้วยมาตรฐานกันซึมระดับสระว่ายน้ำ
ชั้นที่ 1 : ทำความสะอาดและปรับแต่งพื้นผิวดาดฟ้า
เริ่มจากการล้างทำความสะอาดพื้นผิวด้วยน้ำแรงดันสูง ตรวจสอบรอบแตกร้าวทุกจุดและทำการซ่อมแซม เก็บขอบมุมรอยต่อต่าง ๆ และปรับแต่งพื้นผิวด้วยซีเมนต์ จากนั้นทิ้งไว้จนกว่าจะแห้งสนิท
ชั้นที่ 2 : ยิง MS ซีลแลนด์กันซึม
ทาซีเมนต์เบสกันซึมแบบเดียวกับสระว่ายน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดน้ำขัง และเสริมความแข็งแรงด้วยการวางตะข่ายไฟเบอร์เมชตามขอบมุมของดาดฟ้า เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะและป้องกันการรั่วซึมในอนาคต
ชั้นที่ 3 : ลงกันซึมซีเมนต์เบสอีก 1 ชั้น
เพิ่มซีเมนต์เบสกันซึมอีก 1 ชั้น หลังจากติดตั้งตะข่ายไฟเบอร์เมช โดยการปาดสวนทางกัน เพื่อเสริมความแข็งแรงให้มากยิ่งขึ้น
ชั้นที่ 4 และ 5 : ลง Roof Seal จำนวน 2 รอบ
ทาด้วยสี Roof Seal สูตรสะท้อน UV ที่มีความยืดหยุ่น 600% และสะท้อนความร้อนได้อย่างดีเยี่ยมด้วย German Technology ช่วยลดอุณหภูมิของห้องชั้นใต้ดาดฟ้า ประหยัดค่าไฟให้กับอาคารของคุณได้อีกด้วย
บริการรับทำกันซึมดาดฟ้าจาก NAP Paint จะกี่หน้าฝนก็หมดห่วง!
ปัญหาน้ำรั่วซึมดาดฟ้าจะหมดไปเมื่อคุณใช้บริการทำกันซึมดาดฟ้าจาก NAP Paint ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีและฝีมือของทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ ด้วยมาตรฐานระดับเดียวกับสระว่ายน้ำ สะท้อนความร้อนได้ดี ช่วยให้ภายในอาคารเย็นสบาย คงความสวยงามด้วยหลากหลายเฉดสีให้คุณเลือก เช่น สีน้ำตาล สีเขียว หรือสีขาว พร้อมรับประกันงานทากันซึมนานถึง 2 ปี สามารถติดต่อเพื่อตรวจสอบหน้างานได้ที่ช่องทางด้านล่าง
- โทรศัพท์: 0922488221 หรือ 0935699998
- Line ID: @nappaint
สรุป
การเลือกวัสดุกันซึมต้องคำนึงวัตถุประสงค์ในการใช้งาน สภาพพื้นผิวของดาดฟ้า ว่ามีรอยแตกร้าวมากน้อยแค่ไหน หรือทำจากวัสดุอะไร เพื่อให้เลือกชนิดของระบบกันซึมที่เข้ากับพื้นผิวนั้น ๆ นอกจากนี้ ช่างควรจะซ่อมแซมรอยแตกร้าวก่อนทากันซึมทุกครั้ง ป้องกันไม่ให้มีน้ำรั่วซึมในจุดที่มองไม่เห็น และอาจเกิดปัญหาตามมาในอนาคตได้