ซีลแลนท์ (Sealant) คืออะไร
ซีลแลนท์ คือ วัสดุที่ใช้ในการอุดและปกปิดรอยต่อตามจุดต่าง ๆ เช่น กระเบื้อง ผนัง หรือขอบหน้าต่าง เพื่อป้องกันน้ำรั่วซึม ความชื้น และฝุ่นที่แทรกลงไปในช่องว่าง รวมถึงใช้ยึดเกาะวัสดุเข้าด้วยกัน เก็บงานให้ดูเนี้ยบมากขึ้น
ตัวซีลแลนท์จะมีลักษณะเป็นกาว ทำให้ใช้งานง่าย ไม่เลอะมือ เหมาะกับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร แถมยังมีให้เลือกหลากหลายราคาตามประเภทของยาแนวอีกด้วย
ซีลแลนท์ มีกี่ประเภท
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าซีลแลนท์นั้นแตกต่างกันไปตามประเภทการใช้งาน และเหมาะกับพื้นผิวแต่ละชนิด แล้วรู้ไหมว่ายาแนวบางชนิดสามารถทาสีทับลงไปได้ด้วย งั้นเรามาเจาะลึกแต่ละชนิดไปพร้อมกันเลย!
1. ซิลิโคน (Silicone)
ซิลิโคนเป็นซีลแลนท์ที่มีความยืดหยุ่นและแรงยึดเกาะกับวัสดุสูง ทนทานต่อสภาพอากาศ แสงแดด รังสี UV ได้ดี และมีคุณสมบัติกันน้ำและความชื้นได้ จึงนิยมใช้งานบริเวณห้องน้ำ, ห้องครัว, ขอบหน้าต่าง,กระจก และงานทั่วไป นอกจากนี้ ซิลิโคนซีลแลนท์ยังสามารถแบ่งย่อยออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
ซิลิโคนแบบมีกรด
ยาแนวชนิดนี้จะมีกรดเป็นส่วนประกอบ เมื่อใช้งานจะระเหยกลิ่นเปรี้ยวคล้ายน้ำส้มสายชูออกมา ซึ่งสารตัวนี้ทำให้กาวแห้งตัวเร็ว ยึดเกาะได้ดี และมีความแข็งแรงสูง มักใช้เชื่อมอุดรอยต่ออะลูมิเนียม กระจก สแตนเลส และกระเบื้อง แต่ไม่เหมาะกับหินอ่อนและโลหะ เพราะกรดจะไปกัดกร่อนให้พื้นผิวเสียหายได้
ซิลิโคนแบบไม่มีกรด
เพราะไม่มีกรดเป็นส่วนผสม ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงกว่า ไม่มีกลิ่นฉุนขณะใช้งาน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก แต่จะแห้งช้ากว่าชนิดมีกรดและราคาค่อนข้างสูงกว่า เพราะสามารถใช้งานกับโลหะ หินอ่อน และวัสดุอื่น ๆ ได้หลากหลาย เช่น ไม้, เซรามิก, หิน และคอนกรีต

2. โพลียูรีเทน (Polyurethane) หรือ PU
โพลียูรีเทน (Polyurethane) หรือ PU มีคุณสมบัติแข็งแรง และมีความยืดหยุ่นสูงมาก ๆ ทำให้ไม่หดตัวหลังแห้ง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทาน อุดรอยต่อที่มีแรงสั่นสะเทือนและการเคลื่อนไหว เช่น รอยต่อตามโครงสร้างอาคาร ตามแผ่นหลังคา ผนังคอนกรีต เป็นต้น ที่สำคัญซีลแลนท์ประเภทนี้สามารถทาสีบ้านทับได้ ใช้ได้ทั้งงานภายในและนอกอาคาร
3. โมดิฟายซิลิโคน (Modified Silicone)
เป็นยาแนวที่นำจุดเด่นของยาแนวชนิดซิลิโคนและโพลียูรีเทนมารวมกัน โดยมีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง ยึดเกาะและใช้งานได้กับทุกพื้นผิว ทนทานต่อรังสี UV สภาพอากาศ และความชื้นได้ดี แถมยังสามารถทาสีทับเพื่อความสวยงาม และสารระเหยปลอดภัยต่อสุขภาพ ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูงนั่นเอง

4. อะคริลิก (Acrylic)
คุณสมบัติแห้งไว มีกลิ่นน้อย และทาสีทับได้ ทำให้เหมาะกับงานภายในอาคาร เช่น รอยร้าวตามผนัง, อุดรูตามวงกบ, ผนังบัว, รอยต่อของสุขภัณฑ์ และงานติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in แต่ไม่ควรใช้ในพื้นที่เปียกชื้น เพราะจะทำให้อะคริลิกไม่แข็งตัวและขึ้นราได้
5. โพลีซัลไฟด์ (Polysulphide)
มาถึงซีลแลนท์ประเภทสุดท้ายอย่างโพลีซัลไฟด์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานน้ำมัน, สารเคมี, เชื้อเพลิง, โอโซน และอุณหภูมิสูงได้อย่างดีเยี่ยม แต่มีกลิ่นฉุนกว่าซีลแลนท์ชนิดอื่น ๆ เหมาะกับการใช้ในงานก่อสร้าง หรืองานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น รอยต่อโครงสร้างอาคาร, ผนังก่ออิฐฉาบปูน, ยาแนวสนามบิน, ถังน้ำมัน, อ่างเก็บน้ำ เพราะทนต่อแรงสั่นสะเทือน และแรงกระแทกได้สูง

แจกวิธีการใช้งานซีลแลนท์ฉบับเบื้องต้น ทำตามที่บ้านได้ทันที
สำหรับใครที่เจอปัญหาน้ำรั่วซึมตามห้องน้ำ หรือผนังมีรอยแตก ไม่สวยงาม และอยากซ่อมแซมให้กลับมาสวยเหมือนใหม่ เราจะมาสอนวิธีใช้ง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำตามได้เลย โดยจะขอยกตัวอย่างวิธีใช้งานของปืนซิลิโคนซีลแลนท์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายที่สุด ดังนี้
1. เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น
เริ่มจากการเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้แก่ กาวยาแนวซิลิโคน, เทป, ปืนยิงกาว และผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาด
2. ทำความสะอาดพื้นผิวที่ต้องการใช้งาน
ขูดกาวอันเก่าออกจนหมด และใช้น้ำยาทำความสะอาดสิ่งสกปรกบริเวณที่ต้องการใช้งาน ไม่ให้ฝุ่น คราบตะไคร่ หรือคราบต่าง ๆ หลงเหลืออยู่ เช็ดให้แห้งสนิท จากนั้นนำเทปกาวแปะส่วนที่ไม่ต้องการให้เลอะ และช่วยให้สามารถยิงยาแนวได้เป็นเส้นตรงเสมอกัน
3. เตรียมยาแนวให้เรียบร้อย
ตัดปลายหลอดกาวที่มุม 45 องศา พยายามอย่าให้โดนเกลียวมากเกินไป จากนั้นนำตัวหลอดใส่ในปืนยิงยาแนว ซึ่งต้องใส่ให้แน่นสนิท เพื่อให้ใช้งานสะดวก ไม่หลุดมือ
4. ยิงซิลิโคนซีลแลนท์ให้เรียบเสมอกัน
กดปืนยิงยาแนวตามร่องให้เป็นเส้น และทิศทางเดียวกับเทปที่แปะไว้ แล้วใช้ที่ปาดปาดเส้นกาวเบา ๆ ให้เต็มร่อง และตกแต่งให้ยาแนวเรียบเนียนไปกับพื้นผิว
5. เก็บงานให้ละเอียด สวยงาม
ดึงเทปกาวออกทันที เพื่อไม่ให้ยาแนวแข็งตัวติดกับตัวเทป จากนั้นใช้ผ้าเช็ด และเก็บละเอียดส่วนที่ไม่เรียบร้อยหรือเกินออกมา สำหรับใครที่ใช้ซีลแลนท์ชนิดที่ทาสีทับได้ แนะนำให้รอกาวแห้งสนิทก่อนจึงค่อยทาสีทับลงไป
NAP Paint แนะนำ 3 ยี่ห้อซีลแลนท์ ที่ช่างมืออาชีพนิยมใช้
หลังจากที่ทำความเข้าใจประเภทและขั้นตอนการใช้งานกันแล้ว เราจะมาแนะนำยี่ห้อยาแนวที่ช่างมืออาชีพจาก NAP Paint เลือกใช้กัน

1. Duraflex 200 (Modified Silicone)
มาที่ตัวแรกอย่าง Duraflex 200 (Modified Silicone) ที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก ๆ เหมาะกับใช้งานทั้งภายในและภายนอก แต่เน้นงานภายนอกเป็นหลัก เพราะทนความชื้น รังสี UV และอุณหภูมิสูง ๆ ได้ดี เช่น งานกระจกอะลูมิเนียม งานแผ่นคอมโพสิท และงานไม้ทุกประเภท มีให้เลือกทั้งสีขาว เทา ดำ และสามารถทาสีทับได้ด้วย

2. WACKER GP (Silicone)
สำหรับงานซ่อมแซมทั่วไป ขอแนะนำซิลิโคนซีลแลนท์ของ WACKER GP ใช้งานง่าย และเป็นซิลิโคนแบบมีกรด ใช้อุดรอยรั่วตามขอบหน้าต่าง กระจก และกรอบประตู

3. MS-2000 Modified Hybrid Silicone Sealant
เป็นโมดิฟายซิลิโคนซีลแลนท์จาก First Sealant Technology จุดเด่นคือทนทานได้นานเป็น 10 ปี กันเชื้อรา ป้องกันการเกิดสนิม รองรับการเคลื่อนไหวและแรงสั่นสะเทือนได้ดีมาก ๆ เหมาะสำหรับงานก่อสร้างอาคารสูง และงานที่เน้นความแข็งแรง เช่น คอนโดมิเนียม, งานพรีคาสท์, หลังคารถยนต์ หรือแม้กระทั่งตู้คอนเทนเนอร์อีกด้วย
สรุป
ถ้าอยากให้ยาแนวใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานนาน ๆ ก็ควรเลือกใช้ให้ถูกประเภท เหมาะสมกับลักษณะพื้นผิว รวมถึงใส่ใจกับขั้นตอนการยิงยาแนว ไม่สัมผัสจนกว่าจะแห้งสนิทจริง ๆ เพื่อให้กาวมีความติดทน ไม่หลุดลอกออกมาง่าย ๆ และช่วยให้ยึดเกาะให้เฟอร์นิเจอร์ กระเบื้อง หรือโครงสร้างอาคารของคุณแข็งแรงไปอีกหลาย ๆ ปี
สำหรับใครที่อยากได้ช่างที่ช่วยให้บ้านกลับมาสวยเหมือนใหม่ ซ่อมแซมทุกรอยรั่ว และเก็บงานเนี้ยบ NAP Paint ยินดีให้คำปรึกษาฟรี ด้วยประสบการณ์มานานกว่า 30 ปี ทำให้เราเป็นทีมช่างคู่ใจคนไทย และมอบบริการที่ใส่ใจทุกขั้นตอนเสมอมา